สิ่งที่ Website ให้กับ Brand
ได้แต่ Facebook ให้ไม่เคยได้
และจะไม่ได้ตลอดไป
เคยคิดกันมั้ย?
ทำไม Brand มี Facebook แล้วยังต้องมี Website?
ในเมื่อ Facebook มันใช้ง่ายกว่า สร้าง Audience ได้เร็วกว่า
แชร์ง่ายกว่า ทำให้มีคนเห็นได้มากกว่า
แทบจะให้ในทุกอย่างที่เราต้องการอยู่แล้ว
แล้ว Website ยังจำเป็นอยู่อีกเหรอ?
จะตอบคำถามนี้ได้..
ต้องทำความเข้าใจธรรมชาติของ Facebook ก่อน
- หัวใจของ Facebook คือ Timeline ให้อีกกี่สิบปี (ถ้า Facebook ยังคงอยู่)
ไม่ว่า Facebook จะเปลี่ยนไปอีกกี่ครั้งแต่จะไม่เปลี่ยนการนำเสนอในรูปแบบนี้แน่นอน
เพราะเป็นรูปแบบการนำเสนอเดียวที่ทำให้เกิดการ Scroll แบบไม่รู้จบได้
การนำเสนอด้วย Timeline มีธรรมชาติของตัวเอง
เราจะเอามาพูดซัก 2 ข้อนะ
- Content ใน Timeline จะเรียงลำดับตามเวลาเสมอ ถึงมีกระโดดบ้างก็อยู่ในช่วง 3-5 วันเท่านั้น
เป็นการยากที่ Content ที่มีอายุเกิน 5 วัน จะยังโลดแล่นอยู่บน Facebook Timeline ได้
- Content หนึ่งจะเชื่อมไปอีก Content ได้ยากธรรมชาติของแต่ละ Content ใน FB จะจบในตัวเอง
อ่านจบคนมักจะปิดและกลับมาที่ Timeline ต่อเสมอ
สังเกตุว่าเราจะทำ Tag ไปที่ Content อื่นอย่างเป็นธรรมชาติไม่ได้
เมื่อเข้าใจตรงกันแล้ว
แอดมินขออนุญาต ตอบคำถามด้วยคำถามเหล่านี้
โจทย์คือ “ถ้าแบรนด์ของเราไม่มีเว็บไซต์”
แล้วเราจะทำสิ่งต่อไปนี้ได้อย่างไร?
- ถ้าคนอ่าน Content A จบแล้ว อยากจะนำเสนอให้อ่าน Content B,C ด้วย ถึงแม้ Content B,C จะเขียนไว้นานแล้วก็ตาม
- ถ้าคนอ่าน Content A,B,C แล้ว อยากจะนำเสนอ Product X เผื่อจะปิดการขายได้จะทำได้อย่างไร?
- ถ้าคนอ่าน Content ใน Category Y บ่อยๆ เราจะแสดง CTA ถามข้อมูล email ของคนนั้น เพื่อที่จะส่งข้อมูล Category Y ล่าสุดให้ทางอีเมล์ จะทำได้อย่างไร?
- ถ้า Content ของเราไม่จบในตอนเดียวจะต้องลากยาวเป็น Series 5 ตอนจบและมี Link ไป-กลับ ในแต่ละตอนจะทำได้อย่างไร?